ในยุคสมัยที่ความสะดวกสบายและความเร่งรีบกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเรา การดูแลสุขภาพจึงมักถูกมองข้ามไป ในขณะที่เรามุ่งมั่นไล่ตามความสำเร็จในหน้าที่การงาน เรามักจะลืมไปว่าสุขภาพที่แข็งแรงคือรากฐานสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โอเมก้า 3 (Omega 3) เช่น กรดอีโคซาเพนตะอีโคแซนอิก (eicosapentaenoic acid: EPA) และกรดดอคโคซาเฮกซาอีโคแซนอิก (docosahexaenoic acid: DHA) เป็นสารอาหารที่มีความสำคัญต่อสุขภาพสมอง หัวใจ ตา และระบบภูมิคุ้มกัน แต่คนส่วนใหญ่ทั่วโลกยังไม่ได้รับปริมาณที่เพียงพอตามที่องค์การอาหารและยุโรปแนะนำไว้ที่ 250 มิลลิกรัมต่อวัน ดังนั้น อาหารเสริมจึงเป็นทางเลือกที่ถูกนำมาใช้แทน ส่วนใหญ่แล้วอาหารเสริมโอเมก้า 3 จะทำจากน้ำมันปลา แต่ความกังวลเรื่องความยั่งยืนและปริมาณปลาที่ลดลง ทำให้โอเมก้า 3 จากสาหร่ายสามารถเป็นทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า
DHA จากสาหร่าย: ประโยชน์ที่ซ่อนอยู่ในธรรมชาติ
DHA หรือ Docosahexaenoic Acid เป็นกรดไขมันโอเมก้า-3 ที่มีความสำคัญต่อการทำงานของสมอง ระบบประสาท และการมองเห็น ซึ่งพบได้ในอาหารทะเลและสาหร่ายทะเล ปกติร่างกายของเราไม่สามารถสร้าง DHA ได้เอง จึงจำเป็นต้องได้รับสารนี้จากอาหาร การศึกษาพบว่า DHA ช่วยส่งเสริมการพัฒนาของสมองและการเรียนรู้ในเด็ก ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด และช่วยชะลอความเสื่อมของสมองในผู้สูงอายุ นอกจากนี้ DHA ยังช่วยลดอาการซึมเศร้าและปรับปรุงสมาธิ ซึ่งล้วนเป็นประโยชน์ที่มีคุณค่าอย่างยิ่งต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของเรา
ทำไมต้องเลือก DHA จากสาหร่าย (Algae DHA)?
1.ความยั่งยืน และต้นทุนที่แข่งขันได้ DHA จากสาหร่ายเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนและมีต้นทุนที่แข่งขันได้ในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น และสนับสนุนการอนุรักษ์ระบบนิเวศทางทะเล ปลาไม่ได้ผลิต DHA เอง แต่จะได้รับจากการกินสาหร่ายขนาดเล็กในมหาสมุทร ในขณะที่ DHA จากสาหร่ายผลิตจากสาหร่ายโดยตรงเพื่อให้ได้ DHA ที่มีแหล่งที่มาไม่จำกัด ยั่งยืน และเป็นมิตรกับมหาสมุทร
2. ความเร็วและความสามารถในการขยายการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทาน DHA จากสาหร่ายมีข้อได้เปรียบด้านห่วงโซ่อุปทาน เช่น กระบวนการผลิตที่สั้นกว่า และขยายการผลิตได้ดีกว่า การผลิตน้ำมันปลาแบบดั้งเดิมอาจใช้เวลานานถึง 24 เดือน ตั้งแต่การจับปลาจนถึงวางขาย แต่ DHA จากสาหร่ายสามารถเติบโตจากเซลล์เดียวเป็นน้ำมันที่มีคุณค่าทางโภชนาการในเวลาเพียง 25 วัน
3. คุณภาพและความปลอดภัยที่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี DHA จากสาหร่ายผลิตในสภาพแวดล้อมที่แยกจากสิ่งปนเปื้อนในทะเลเพื่อให้ได้ DHA ที่ปลอดภัย กระบวนการผลิต DHA จากสาหร่ายเริ่มต้นจากวัตถุดิบที่บริสุทธิ์ แทนที่จะต้องผ่านกระบวนการทำความสะอาดหลังการเก็บเกี่ยว ทุกขั้นตอนตั้งแต่การเพาะเลี้ยงจนถึงการกลั่นสุดท้ายได้รับการออกแบบมาเพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของ DHA อย่างเคร่งครัด
4. ข้อได้เปรียบในการนวัตกรรม DHA จากสาหร่ายช่วยขยายโอกาสในการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ เพื่อปรับปรุงคุณภาพและการแข่งขันของผู้ผลิต ในรูปแบบของ DHA Oil และ DHA powder ด้วยกลิ่นรสที่เป็นกลาง ช่วยให้ผู้บริโภคใช้ผลิตภัณฑ์ได้อย่างต่อเนื่อง DHA จากสาหร่ายยังเป็นแหล่งของโอเมก้า 3 ที่มีประสิทธิภาพการดูดซึมดี และเหมาะสำหรับผู้บริโภคที่ปฏิเสธการบริโภคสินค้าจากสัตว์ เช่น คนกินอาหารมังสวิรัติและคนกินอาหารเจ ซึ่งมีจำนวนถึง 3% ของผู้บริโภคทั่วโลก
EU อนุมัติ โอเมก้า 3 ทางเลือกจากพืช: ก้าวสำคัญสู่โภชนาการที่ดีต่อสุขภาพ
โดยน้ำมันโอเมก้า 3 จากสาหร่าย ได้รับอนุมัติตามกฎระเบียบข้อบังคับสหภาพยุโรปให้สามารถใช้ทดแทนโอเมก้า 3 จากเนื้อสัตว์และปลาได้ เนื่องจากมีองค์ประกอบกรดไขมันโอเมก้า 3 (Omega-3 fatty acid) ชนิด DHA (Decosahexaenoic acid) และ EPA (Eicosapentaenoic acid) ซึ่งถือว่ามีคุณค่าทางโภชนาการเทียบเท่ากับที่พบในเนื้อสัตว์และปลา สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการรับประทานโอเมก้า 3 ชนิด DHA และ EPA จากทางเลือกอื่นที่ไม่ใช่เนื้อสัตว์ และ EU ยังอนุญาตให้กล่าวอ้างสรรพคุณ เช่น มีส่วนช่วยในการบำรุงหัวใจ สมอง และสายตา ได้ด้วย ถือว่าเป็นการพัฒนาที่สำคัญของอุตสาหกรรมอาหารทางเลือกจากพืช (plant-based industry) เนื่องจากสามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันที่หันมาสนใจสุขภาพ และเริ่มปรับเปลี่ยนแนวทางการบริโภคผลิตภัณฑ์จากพืชทดแทนเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้น
สำหรับรายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าวนี้ของสหภาพยุโรป สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จาก Commission Implementing Regulation (EU) 2022/1365 of 4 August 2022 amending Implementing Regulation (EU) 2017/2470 as regards the conditions of use of the novel food Schizochytrium sp. oil rich in DHA and EPA. EUR-Lex – 32022R1365 – EN – EUR-Lex (europa.eu)
สรุป
การเลือก DHA จากสาหร่ายไม่เพียงแต่ดีต่อสุขภาพของเราเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับมหาสมุทรและระบบนิเวศทางทะเลของเราอีกด้วย DHA จากสาหร่ายเป็นแหล่งโอเมก้า 3 ที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพสูง ซึ่งสามารถช่วยเสริมสร้างสุขภาพสมอง หัวใจ และระบบต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คำถามที่พบบ่อย
- DHA จากสาหร่ายและ DHA จากน้ำมันปลามีความแตกต่างกันอย่างไร?
DHA จากสาหร่ายและ DHA จากน้ำมันปลามีความแตกต่างกันในเรื่องของความยั่งยืน ความปลอดภัย และประสิทธิภาพการดูดซึม โดย DHA จากสาหร่ายเป็นแหล่งที่มาที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า มีกระบวนการผลิตที่ให้ความปลอดภัยสูงกว่า และมีประสิทธิภาพการดูดซึมที่ดีกว่าสำหรับผู้บริโภคที่ปฏิเสธการบริโภคสินค้าจากสัตว์
- DHA จากสาหร่ายมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างไร?
DHA จากสาหร่ายมีประโยชน์ต่อสุขภาพสมอง หัวใจ ตา และระบบภูมิคุ้มกัน โดยช่วยส่งเสริมการพัฒนาของสมองและการเรียนรู้ในเด็ก ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด ชะลอความเสื่อมของสมองในผู้สูงอายุ และช่วยลดอาการซึมเศร้าและปรับปรุงสมาธิ
- DHA จากสาหร่ายเหมาะสำหรับใครบ้าง?
DHA จากสาหร่ายเหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการเสริมสร้างสุขภาพสมอง หัวใจ และระบบต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่ปฏิเสธการบริโภคสินค้าจากสัตว์ เช่น คนกินอาหารมังสวิรัติและคนกินอาหารเจ ซึ่งมีจำนวนถึง 3% ของผู้บริโภคทั่วโลก